อาการเมารถ หรือ Motion Sickness เกิดจากการรับรู้ที่ไม่สอดคล้องกันระหว่างสิ่งที่ดวงตามองเห็นและสิ่งที่ร่างกายรู้สึก โดยเฉพาะจากหูชั้นใน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการรักษาสมดุลของร่างกาย เมื่อเราอยู่ในยานพาหนะที่กำลังเคลื่อนที่ เช่น รถยนต์ เรือ หรือเครื่องบิน สัญญาณที่ส่งไปยังสมองจะขัดแย้งกัน ทำให้เกิดอาการไม่สบายต่างๆ
สาเหตุของอาการเมารถ
อาการเมารถเกิดขึ้นเมื่อ:
- การรับรู้ที่ขัดแย้งกัน: เมื่อดวงตาของเรามองเห็นการเคลื่อนไหว แต่ร่างกายรู้สึกเหมือนอยู่นิ่ง (เช่น นั่งอยู่ในรถ) หรือในทางกลับกัน ส่งผลให้สมองได้รับข้อมูลที่ไม่ตรงกัน
- ความไวของระบบประสาท: บางคนมีความไวต่อการเคลื่อนไหวมากกว่าคนอื่น เช่น เด็กอายุ 2-12 ปี ผู้หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่มีประวัติเป็นไมเกรน
- ปัจจัยอื่นๆ: การนั่งในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม เช่น ที่นั่งด้านหลังของรถยนต์หรือเรือที่โคลงเคลง อาจทำให้เกิดอาการได้ง่ายขึ้น123.
อาการที่พบบ่อย
อาการเมารถสามารถแสดงออกได้หลายรูปแบบ เช่น:
- เวียนศีรษะ
- คลื่นไส้
- อาเจียน
- เหงื่อออก
- ปวดหัว
- รู้สึกไม่สบายทั่วไป
โดยทั่วไปแล้ว อาการเหล่านี้มักจะเริ่มขึ้นภายใน 20 นาทีหลังจากเริ่มเดินทาง และสามารถบรรเทาลงได้เมื่อหยุดการเคลื่อนไหว.
การป้องกันและรักษา
เพื่อป้องกันอาการเมารถ สามารถทำได้โดย:
- เลือกที่นั่งที่เหมาะสม เช่น ที่นั่งกลางรถหรือชั้นหน้าของเครื่องบิน
- หลีกเลี่ยงการอ่านหนังสือหรือใช้โทรศัพท์มือถือขณะเดินทาง
- รับประทานยาแก้เมารถก่อนเดินทางประมาณ 30 นาที13.
สำหรับการรักษา หากมีอาการรุนแรง อาจจำเป็นต้องใช้ยา เช่น ยาสโคโปลามีนหรือยาไดเมนไฮดริเนต ซึ่งควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร.